เนื่องจากช่วงนี้หวัดฮิตเว่ออร์เบอร์5!! ปลายฝนต้นหนาว ซ้ายก็ฮัดชิ่ว ขวาก็ไอ หันไปไหนก็มีแต่คนไม่สบาย แล้วเราทำไงดีเนี้ย ป่วยไม่ได้นะไม่มีใครเลี้ยงลูก เคยได้ยิน ‘เค้าว่ากันว่า’ วิตามินซีช่วยได้ แต่ช่วยได้จริงมั้ย แล้วต้องกินยังไง? วันนี้เภสัชกรแม่ลูกอ่อนมีคำตอบมาฝากค่า 

วิตามินซี คืออะไร

วิตามินซีคือ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นวิตามินชนิดที่ “ละลายในน้ำ” ซึ่งร่างกายเราไม่สามารถสร้างเองได้ มีประโยชน์เยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ใช้รักษาและป้องกันโรคลักปิดลักเปิด ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน และยังเป็น antioxidant มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกายอีกด้วย แต่ประเด็นที่จะพูดถึงวันนี้ก็คือในเรื่องของความสามารถในการป้องกันหวัด 

วิตามินซี..ป้องกันหวัดได้จริงมั้ย

จากผลการศึกษาพบว่า.. วิตามินซี ช่วยป้องกันหวัดได้จริง!! ในกลุ่มคนที่ออกกำลังกาย(หนักๆ)อย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ เช่น นักวิ่งมาราธอน โดยสามารถลดการเป็นหวัดได้ถึง 50% เลยทีเดียว Wow!! แต่เดี๋ยวนะ..แล้วชั้นล่ะ?! ชั้นเป็นแม่ลูกอ่อนจะเอาเวลาไหนไปออกกำลังกาย ไปวิ่งมาราธอน เวลาจะนอนยังไม่มีเล๊ยย  คืองี้ค่ะคุณผู้โช้มๆๆ ถึงแม้ว่าการกินวิตามินซีมันอาจจะไม่ได้ช่วยป้องกันหวัดในกลุ่มคนประชาชนทั่วไป แต่มันช่วย “ลดระยะเวลา” (Duration) และ “ความรุนแรง” (Severity) ได้เด้อออ เฮ้ยย!! แค่นี้ก็เอาละป้ะ!!!

**ในเรื่องของระยะเวลาการเป็นหวัดนั้นพบว่า ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่เมื่อกินวิตามินซีในระยะยาวเพื่อป้องกันหวัด จะช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัดได้ โดยในเด็กจะลดระยะเวลาได้ถึง 14% และในผู้ใหญ่จะลดได้ 8%**

วิตามินซี..ต้องกินเท่าไหร่ดี

ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับที่สามารถช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาของหวัดได้อยู่ที่ 1000-3000 mg/day และเนื่องจากการดูดซึมของวิตามินซีจะมีจุดอิ่มตัวในแต่ละครั้ง ดูดซึมไม่หมดก็ขับทิ้ง ดังนั้นแนะนำให้กินวิตามินซีวันละหลายครั้ง จนครบขนาดที่แนะนำต่อวัน ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินซีได้มากกว่าการกินทั้งหมดในครั้งเดียวค่ะ

•  ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับในแต่ละวัน สำหรับเด็กๆในแต่ละช่วงวัย
•  แรกเกิด-6เดือน 40 mg/day
•  7-12 เดือน 50 mg/day
•  1-3 ขวบ 15 mg/day
•  4-8 ขวบ 25 mg/day
•  9-13 ขวบ 45 mg/day

รูปแบบผลิตภัณฑ์วิตามินซีมีอะไรบ้าง

อย่างที่บอกว่าร่างกายของเราไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้เอง ส่วนใหญ่จะได้รับจากการรับประทานผักและผลไม้ ต่างๆ แต่ถ้าอยากเสริมเพิ่มเติม ในปัจจุบันก็มีวางจำหน่ายอยู่หลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร ได้แก่

•  แบบเม็ดกลืน
  มีขนาดตั้งแต่ 25 ถึง 1,000 mg แต่วิตามินซีสำหรับผู้ใหญ่ที่นิยมมี 2 ขนาดคือ 500 และ 1,000 mg
•  แบบเม็ดอม
  มีขนาด 25, 50, 100 และ 500 mg อันนี้คงคุ้นชินกันทุกคน  แต่ไม่แนะนำให้อมบ่อยๆนะคะ เนื่องจากวิตามินซีเป็นกรด อาจทำให้ฟันกร่อนได้น้า
•  แบบเม็ดเคี้ยว (เยลลี่)
  รูปแบบนี้เหมาะสำหรับเด็ก พีต้าชอบมาก หวานมักจะไม่ค่อยให้แบบเป็นเม็ดอมเพราะกลัวฟันกร่อนอย่างที่บอก ก็จะเลี่ยงมาเป็นแบบเยลลี่แทน แต่ก็ต้องให้ในปริมาณที่พอเหมาะนะคะ เพราะบางทีมันชอบมีเคลือบน้ำตาลมา ก็กลัวฟันผุไปอีก โอ๊ยย เป็นแม่มันยากแท้น้ออ
•  แบบเม็ดฟู่
  คือจะต้องนำเม็ดยาไปละลายน้ำก่อน พอใส่ลงไปในน้ำก็จะเกิดเป็นฟองฟู่ พอละลายหมดก็ดื่มได้เลย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการกลืนเม็ดยา เพราะบางทีมันก็เม็ดใหญ่เหมือนกันนะ
•  แบบแคปซูล
  กลืนง่ายขึ้นมากว่าแบบเม็ดอัดนิดนึง ส่วนใหญ่จะมีขนาด 500mg มีทั้งชนิดแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม
•  แบบสารละลายสำหรับฉีด
  ไม่เหมาะสมในการใช้เป็นประจำทุกวันเพราะต้องให้แพทย์หรือพยาบาลฉีดยาให้ ส่วนมากรูปแบบนี้จะใช้ในคลินิกเสริมความงาม 

🌀 ทั้งนี้ทั้งนั้นอะไรที่มากเกินไปก็คงจะไม่ดี เพราะนอกจากมีประโยชน์อีกด้านหนึ่งก็อาจจะมีโทษมาด้วยกัน ในส่วนของผลเสียของวิตามินซีก็มี เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แสบทรวงอก ท้องเสีย ฯลฯ ดังนั้นการเลือกรับประทานวิตามินซีควรพิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล โดยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งค่ะ 🌀