สำหรับเด็กโตแล้วหน่อย พอจะสั่งน้ำมูกได้คายเสมหะเป็น ก็พอไหว แต่ถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็กๆที่ยังสั่งน้ำมูกเองไม่เป็นแล้วล่ะก็ โอ้โห.. งานใหญ่สุดแสนทรมาน ทรมานทั้งลูกคนที่เป็น ทรมานทั้งคนที่เห็นคือพ่อแม่ รู้ว่ารู้หายใจไม่ออก แต่ทำอะไรไม่ได้..

แล้วทำไมถึงไม่ควรให้เด็กๆทานยาลดน้ำมูก ⁉️
ไม่ถ้าทานยาลดน้ำมูก..แล้วจะจัดการกับน้ำมูกได้อย่างไร ⁉️
หาคำตอบง่ายๆได้ในโพสนี้เลยค่ะ 😊

แม้ว่าการทานยาลดน้ำมูกจะช่วยให้น้ำมูกที่ไหล แห้งลงก็จริง..
แต่‼️‼️ สิ่งที่เรามองไม่เห็นแต่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องรู้ไว้และทำความเข้าใจก็คือ..
กลไกของยาลดน้ำมูกนอกจากทำให้น้ำมูกแห้งแล้ว มันยังมีผลทำให้น้ำมูกและเสมหะข้นมากขึ้นด้วย ซึ่งสำหรับเด็กโตที่พอจะคายเสมหะ หรือสั่งน้ำมูกเองได้ก็อาจจะพอไหว แต่ถ้าในเด็กเล็กที่สั่งน้ำมูกก็ไม่ได้ คายเสมหะก็ยังไม่เป็น มันจะทำให้เค้ายิ่งแย่ เพราะหายใจไม่สะดวกและรู้สึกไม่สบายเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ บางคนถึงกับอ้วกก็มี นึกภาพตามว่าเอาแค่ตัวเราเองเป็นผู้ใหญ่ เวลาเสมหะเหนียวข้นติดอยู่ในลำคอ เรายังต้องพยายามกระแอมหลายครั้งกว่าจะหลุดออกมาได้ แล้วในเด็กที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้ เค้าจะต้องทรมานมากๆค่ะ

ถ้าไม่กินยาแล้วจะทำยังไง ⁉️
ตามไปดูต่อกันเลยค่ะ 😉👉🏻

วิธีแรกที่แนะนำคือการ..

⭐️ ล้างจมูก

อันนี้ช่วยได้มากจริงๆ ลูกจะสดชื่นโล่งสบาย และหายเร็ว แต่‼️ เด็กบางคนก็ร้องบ้านแตก (เช่นบ้านนี้..เพราะนานๆทีป่วย นานๆล้างที หนูไม่ชิน ผมไม่เอา ต้องช่วยกันจับ บังคับจนเหนื่อย) หรือพ่อแม่บางคนอาจจะกลัวไม่เคยทำ ไม่กล้าล้าง ก็ไม่แปลกค่ะ บางคนกลัวลูกสำลัก กลัวแรงดันน้ำเข้าหู ก็มาดูวิธีต่อไปกันเลย

⭐️ ดูดน้ำมูก

วิธีนี้จะดีต่อใจ ง่าย คลาสสิค ใช้มาทุกยุคทุกสมัย พ่อแม่คนไหนก็ทำได้ ลูกโล่งสบาย

และวันนี้หวานมีมาแนะนำคือ “ปากกาดูดน้ำมูกริกิ” มีโอกาสได้คุยกับคุณหมอที่เป็นคนนำเข้านวัตกรรมนี้มาจากไต้หวันบอกว่า ที่มาที่ไปเกิดจากปีที่แล้วเด็กๆที่บ้านเป็น RSV ก็จะมีน้ำมูกเยอะมาก มองหาตัวช่วยที่จะมาดูดน้ำมูกลูกในท้องตลาดก็ไม่ค่อยมี ใช้ลูกยางแดงก็กลัวลูกจะเจ็บจมูกได้ เลยเล็งว่าตัวนี้ สะอาด เปลี่ยนตัวกรองได้ ใช้ง่าย ลองใช้เองแล้วชอบ เลยตัดสินใจนำเข้ามา ในราคาที่จับต้องได้ ไม่แพง!! จริงๆสามารถใช้ได้จนถึงอายุ4-5ขวบ แล้วแต่ว่าเค้าเริ่มสั่งน้ำมูก หรือคายเสมหะเองได้รึยัง