อาทิตย์ที่แล้ว จู่ๆน้องเพตั้นก็ไข้ขึ้น ไม่มีอาการอย่างอื่น งอแงหนักมาก ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยเป็น ในใจหม่าม๊าก็คิดไว้ว่าอาการแบบนี้นี่น่าจะ “ส่าไข้” แน่นอน ก็ได้แต่พูดกับป่าป๊าว่าอาการแบบนี้คุ้นมาก ไข้ประมาณนี้ งอแงเบอร์นี้ เหมือนพีต้าที่เป็นส่าไข้ตอนขวบนึงเลย สุดท้ายสามวันไข้ลด ผื่นมา ชัดเลยจ๊าาา ส่าไข้จริงๆ!!!!! ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้ 😆😆😆
จากประสบการณ์ลูกสองทำให้รู้ว่า..
ส่าไข้นั้นหนาคือ “ปราบเซียน”
ไม่ร้ายแรง.. แต่งอแงหนักม๊ากกกก
👉🏻 วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ “ส่าไข้” ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า ✌🏻
💊 ส่าไข้คืออะไร
ส่าไข้, หัดกุหลาบ, หัดดอกกุหลาบ, ไข้ผื่นกุหลาบในทารก แล้วแต่จะเรียกกันไป มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Roseolar Infantum” เกิดจากเชื้อไวรัส Human herpesvirus type 6 (HHV-6) เป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นไข้ออกผื่นชนิดนึงที่พบในเด็กเล็กวัย 6เดือนถึง3ขวบ เมื่อเป็นแล้วมักจะไม่เป็นซ้ำอีก ไม่ใช่โรคน่ากลัวร้ายแรง แต่ออกผื่นมาทีนี่ คุณพ่อคุณแม่ถ้าไม่เคยเจอ หรือไม่รู้จักมาก่อน อาจจะตกใจหงายเงิบได้ทีเดียว เพราะพลอยชมพูลายพรางทั้งตัว หลักๆที่ต้องระวังก็จะเป็นในกรณีที่มีไข้สูงเพราะจะทำให้ชักได้ อันนี้ต้องดูแลกันดีๆนะคะ
💊 จะรู้ได้ยังไงว่านี่คือส่าไข้ไม่ใช่โรคอื่น
อาการของส่าไข้คือ อยู่ดีๆก็อยากเป็นไข้ขึ้นมาซะงั้น ไม่ได้มีน้ำมูก ไม่คัดจมูก ไม่มีไอ ไม่อาเจียน ไม่ท้องเสีย ไม่มีอาการอื่นใดใดทั้งสิ้น แต่มีไข้อาการไข้ จะมีได้ 1-5 วัน แล้วแต่เด็ก อย่างสมัยตอนพีต้าเป็นไข้ครั้งแรกในชีวิต ก็ส่าไข้นี่แหละ อาการคือมีไข้ประมาณ 38 นิดๆ ประมาณ 3-4 วัน บางทีกลางวันเหมือนนึกว่าจะหายแล้ว กลางคืนกลับมาไข้ขึ้นอีก และมีอาการงอแงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พอไข้ลด พี่ผื่นก็เริ่มเบ่งบาน เป็นสีชมพูกุหลาบสวยงามตามชื่อโรค ของพีต้ามาเต็มทั้งลำตัว หน้า ขา ผื่นก็จะอยู่ประมาณ 1-3 วัน แล้วก็กลับมาหล่อเหมือนเดิม ส่วนน้องเพตั้นก็ไม่เบา ไข้ขึ้นประมาณ3วันเหมือนกัน 38เกือบๆ39 งอแงเอาแม่เท่านั้น จนซักพักพอไข้ลดผื่นก็มา แต่ของเพตั้นไม่ลายพร้อยเท่าเฮีย แค่พอมีประดับประดาสวยงาม🌹 555555555 🤣🤣
💊 แล้วเป็นส่าไข้ต้องทำยังไง
จริงๆแล้วโรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรง ต้องรักษาตามอาการ
- พยายามเช็ดตัวให้ลูกบ่อยๆ
**และอย่าเข้าใจผิดคิดว่าลูกเป็นไข้ต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆ ควรให้ลูกใส่เสื้อผ้าสบายๆ อย่าอึดอัดจนเกินไป**
- ให้ทานยาลดไข้ พาราเซตามอล ได้ทุก 4-6 ชั่วโมง
**ที่สำคัญเวลาเด็กเล็กๆไม่สบาย เค้ายังพูดสื่อสารไม่ได้ การวินิจฉัยไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ถ้าไม่มั่นใจ หวานแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเลยนะคะ เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดค๊าา