ความน่ารักน่าชังของเด็กๆ ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนเอ็นดู และทำให้บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสตัวลูกเรา ไม่ว่าจะจับเบาๆบ้าง อยากหอมบ้าง ทุกอย่างเป็นไปด้วยความไม่คิดอะไร แต่ในเด็กเล็กคุณพ่อคุณแม่ต้องระวังให้ดี เพราะในบางทีการสัมผัสแบบไม่คิดอะไรนั้น อาจนำพาเชื้อแบคทีเรียร้ายที่เสี่ยงทำให้ลูกเราป่วยได้แบบคาดไม่ถึง..
อย่างล่าสุดที่กำลังเป็นกระแสเมื่อไม่นานมานี้เลยก็คือ “โรค 4S”
🔺 แต่อาการจะร้ายแรงแค่ไหน..?
🔺 ลักษณะของโรคเป็นยังไง..?
🔺 รักษาและป้องกันได้อย่างไร..?
ติดตามรายละเอียดได้ในโพสนี้เลยค่า 🤗
🔺 โรค 4S คืออะไร ? 🔺
โรค 4S (SSSS) หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากพิษของเชื้อโรค (Toxin) ของเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus ที่ทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ มักเกิดในหมู่เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เพราะเด็กวัยนี้ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง ยังไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคต่างๆได้เท่ากับผู้ใหญ่
🔺 อาการเฝ้าสังเกต 🔺
▪️ หากเกิดอาการติดเชื้อจะมีผื่นแดงที่ผิวหนัง ลักษณะคล้ายถูกน้ำร้อนลวก
▪️ ลูกน้อยจะเริ่มมีอาการไข้ งอแงและเจ็บบริเวณผิวหนังที่ติดเชื้อ
▪️ ผื่นเริ่มลามไปทั้งตัวภายใน 1-2 วัน โดยเฉพาะรอบปากและรอบดวงตาจะเยอะเป็นพิเศษ ตามด้วยก้นและข้อพับต่างๆ และอาจเกิดอาการเยื่อบุตาอักเสบ
▪️ผิวหนังที่แดงๆ อาจกลายเป็นน้ำเหลือง แห้งกรังรอบปากและรอบดวงตา รวมถึงเริ่มตกสะเก็ดและหลุดออกเป็นแผ่นๆ
🔺 การรักษา 🔺
ทันทีที่มีอาการไม่ควรปล่อยไว้นานหรือหายามาทารักษาเอง เพราะเชื้ออาจลุกลามถึงขั้นชีวิตได้ ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ เพื่อกำจัดเชื้อท็อกซิน และให้สารน้ำทางเส้นเลือดรวมถึงน้ำเกลือ เพราะช่วงที่ลูกน้อยป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย ขาดน้ำ เนื่องจากเป็นโรคที่ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ
โดยแพทย์จะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะระหว่างการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ จากภูมิคุ้มกันต่ำของเด็กวัยนี้ ซึ่งจะใช้เวลาการรักษาประมาณ 5 วันก็จะหายเป็นปกติ แต่จะมีรอยแผลเป็นบริเวณที่ติดเชื้อบนผิวหนัง
🔺 การป้องกัน 🔺
หากจำเป็นต้องสัมผัสตัวเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ และคุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงให้ผู้อื่นมาสัมผัสลูกน้อยด้วยการจูบหรือหอม เพราะผู้ใหญ่บางคนมักมีครีม เครื่องสำอาง หรือสิ่งต่างๆที่เรามองไม่เห็นติดบนใบหน้า อาจนำพาเชื้อหรืออาการแพ้ต่อลูกน้อยได้