Health

อันตรายกว่าที่คิด!!! ฝุ่น PM2.5 ในเด็กและสตรี

ตอนนี้ Topic ยอดฮิตที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็เรื่องของ “ฝุ่น ละออง PM 2.5” จริงๆปัญหานี้มีมาเป็นระลอก แต่รอบนี้หนักหน่อยและไม่จางหายไปซักที ที่ต้องใส่ใจเป็นเพราะเจ้าค่าฝุ่นละออง PM2.5 นำพามาทั้งอาการแสบจมูก คันคอ และโรคร้ายเรื้อรังอีกเพียบ บอกเลยว่าอันตรายแบบไม่ธรรมดาจริงๆ ป้องกันได้ควรป้องกันด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กที่ส่งผลต่อพัฒนาการ และหญิงตั้งครรภ์ที่อาจเสี่ยงต่อภาวะแท้งได้..

แล้วตกลงเจ้า PM 2.5 จริงๆแล้วมันคืออะไร..⁉️
มีผลกระทบกับเรายังไง..⁉️
จะป้องกันตัวเองจากภาวะนี้ได้อย่างไร..⁉️

ติดตามหาคำตอบแบบเข้าใจง่ายๆได้ในบทความนี้เลยค่า 😊

🔺 ค่าฝุ่นละออง PM2.5 คืออะไร 🔺

เรียกว่าตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตเลยสำหรับการพาเด็กๆจากบ้าน เพราะปริมาณค่าฝุ่นละออง PM2.5 มีจำนวนมากและอันตรายมากด้วย ความอันตรายนี้มีมากขนาดที่ว่าขนจมูกของคนเราไม่สามารถกรองฝุ่นนี้ได้ เนื่องจากฝุ่นละอองนี้มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ เรียกได้ว่าเล็กจนสามารถเล็ดลอดขนจมูกเข้าสู่ร่างกายได้ และมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของขนาดเม็ดเลือด (5 ไมครอน) โดยความอันตรายอยู่ตรงที่ เจ้าฝุ่นเล็กๆนี้ สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอด และผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังและมะเร็งหากสะสมอยู่ในอวัยวะใดนานๆ จึงก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานต่ำ

🔺 อันตรายที่อาจเกิดในเด็ก 🔺

ความอันตรายของฝุ่นนี้ทำให้เกิดโรคเรื้อรังที่คาดไม่ถึงในหมู่เด็กเล็กได้ ซึ่งล่าสุดยูนิเซฟได้ออกมาเตือนว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้หากเด็กๆ หายใจเข้าไปจะไปอยู่ในถุงลม ตามด้วยเข้าสู่กระแสเลือด กระจายไปยังปอด หัวใจและสมอง ซึ่งมีผลต่อ ”พัฒนาการเด็ก” ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง

ขณะที่ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน พบว่า มลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นเป็นการร่วมสารเคมีหลายชนิด ที่ทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคปอด โรคหลอดเลือดในสมอง โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และยังมีสารก่อมะเร็ง ส่งผลร้ายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายก่อนวัยอันควร

🔺 อันตรายที่อาจเกิดในหญิงตั้งครรภ์ 🔺

มลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นยังส่งผลร้ายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เสี่ยงเกิดภาวะแท้งได้ โดยมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ ระบุว่า ระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะแท้งลูกได้ถึง 16% ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หรืออาจเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด รวมถึงเด็กมีน้ำหนักตัวน้อยกว่ามาตรฐาน และในผลวิจัยยังระบุด้วยว่า มลพิษทางอากาศที่มากอาจเทียบเท่าได้กับการสูบบุหรี่ ที่ส่งผลร้ายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

(ผลวิจัยอ้างอิง https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S001502821832154X )

🔆 วิธีป้องกัน 🔆

มลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรชะล่าใจ แต่สามารถป้องกันได้ตามนี้..

▪️ หลีกเลี่ยงการพาลูกน้อยออกไปสูดอากาศนอกบ้านโดยไม่จำเป็นในช่วงนี้ รวมถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ด้วยเช่นกัน ช่วงนี้อาจต้องเว้นการเดินสูดอากาศยามเช้าหรือยามเย็นไว้ก่อน
▪️ หากจำเป็นต้องพาลูกน้อยออกจากบ้าน ให้หาหน้ากากอนามัย ที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ได้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาทั่วไป หลายยี่ห้อเริ่มมีสัญลักษณ์ป้องกันฝุ่น PM2.5 ติดไว้ให้สังเกตง่าย หรือถ้าหาไม่ได้อาจใช้เป็นหน้ากากธรรมดา โดยใส่กระดาษทิชชูไว้ 2-3 แผ่นแล้วสวมหน้ากากอนามัยทับอีกที ก็ช่วยป้องกันได้ในระดับนึง
▪️ หากเป็นไปได้ควรติดเครื่องกรองอากาศในบ้านและในรถยนต์ จะช่วยกรองอากาศได้อีกแรง
▪️ ให้เด็กรับประทานอาหารให้ครบ5หมู่ พักผ่อนให้เพียง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จะได้ไม่ป่วยได้ง่ายๆค่ะ
▪️ นอกจากนี้เพื่อความสบายใจ สามารถเช็คสภาพอากาศรายชั่วโมงได้ผ่านแอพ Air4Thai ซึ่งจัดทำโดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบ iOS และ Android ค๊าา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *